Table of Contents

บทความที่เกี่ยวข้อง

jili slot 25 รับ 100

jili slot 25 รับ 100 เป็นค่ายเกมที่เล่นได้สบายๆ มีเกมสล็อตออนไลน์ให้เลือกเล่นมากมาย นอกจากนี้ยังมีโปรโมชั่นและโบนัสเพิ่มเติม เลือกจาก Jili Slots 100 เครดิตฟรี ไม่ว่าคุณจะเป็นนักพนันมือใหม่ ง่ายต่อการเล่นเกมสล็อตแคมป์ปิ้งนี้

Read More »

jiligame

jiligame เรานำเสนอบริการเกมสล็อตรูปแบบใหม่ jili slot เป็นเว็บตรงที่ให้บริการเกมใหม่ส่งตรงจากต่างประเทศ อินเทอร์เน็ตในปัจจุบันได้พัฒนาไปสู่ ​​5G และผู้เล่นสามารถเล่นได้อย่างสะดวกสบาย กราฟิกที่พร้อมใช้งาน 4K ที่ไร้รอยต่อทำให้คุณรู้สึกเหมือนอยู่ในคาสิโนออนไลน์ ไม่ต้องเสียเวลาโหลดแอพ อย่าพลาดสาขาอื่นหากคุณเป็นสมาชิก สมาชิกทุกท่านมีความสุขกับโปรโมชั่นดีๆ สล็อต

Read More »

jili city slot เล่นผ่านเว็บ

jili city slot เล่นผ่านเว็บ Jili เล่นผ่านเว็บได้ เกมสล็อตเป็นเกมการพนันออนไลน์ที่สนุกและท้าทายมากกว่าเกมการพนันที่ทุกคนน่าจะรู้จักกันดีเมื่อพูดถึงเกมสล็อต ซึ่งการเล่นสล็อตสมัยนี้สะดวกมากเพราะสามารถเล่นบนเว็บไซต์สล็อตออนไลน์ผ่านมือถือได้ วันนี้ขอแนะนำอีกหนึ่งค่ายเกมยอดนิยม ค่าย JILI SLOT หลายท่านคุ้นเคยกับการเล่นสล็อตที่ Slotcamp ที่มีชื่อเสียง

Read More »

ดนตรีไทยสมัยรัตนโกสินทร์

ดนตรีไทยสมัยรัตนโกสินทร์ สมัยรัชกาลที่ ๑ การจัดวงปี่พาทย์เครื่องห้าได้เพิ่มกลองทัดเข้ามาในวงอีก ๑ ใบ ทำให้วงปี่พาทย์มีกลองทัด ๒ ใบ เสียงสูงและเสียงต่ำเป็นที่นิยมในปัจจุบัน


 สมัยรัชกาลที่ ๒ เป็นยุคทองของดนตรีไทย เพราะรัชกาลที่ ๒ วิวัฒนาการดนตรีไทยสมัยรัตนโกสินทร์ ทรงโปรดดนตรีไทยมากเป็นพิเศษ พระองค์มีซอ ๓ สายคู่พระหัตถ์ ชื่อซอสายฟ้าฟาด และได้พระราชนิพนธ์เพลงบุหลันลอยเลื่อนซึ่งไพเราะมาก ในสมัยรัชกาลที่ ๒ ได้นำวงปี่พาทย์มาบรรเลงประกอบการขับเสภาเป็นครั้งแรก ดนตรีไทยในสมัยรัตนโกสินทร์ มีการสร้างกลองชนิดใหม่เรียกกลองสองหน้า ซึ่งดัดแปลงมาจากเปิงมางของมอญเพื่อใช้แทนตะโพนไทย และกลองทัดซึ่งดังกลบเสียงร้อง

 

     สมัยรัชกาลที่ ๓ มีการพัฒนาวงปี่พาทย์เครื่อง เครื่องดนตรีสมัยรัตนโกสินทร์ โดยได้ประดิษฐ์ระนาดทุ้มคู่กับระนาดเอก และประดิษฐ์ฆ้องวงเล็กคู่กับฆ้องวงใหญ่
     สมัยรัชกาลที่ ๔ มีการประดิษฐ์เครื่องดนตรีเพิ่มขึ้น คือ ระนาดเหล็ก ดนตรีไทยสมัยสุโขทัย วงปี่พาทย์เครื่องคู่จึงพัฒนามาเป็นวงปี่พาทย์เครื่องใหญ่ นอกจากนี้มีการผสมวงเครื่องสายขื้นอีกด้วย
   

  ยุค ทอง ของ ดนตรี ไทย  ในสมัยรัชกาลที่ ๕ ได้เกิดวงปี่พาทย์ดึกดำบรรพ์ ที่สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ เป็นผู้ทรงปรับปรุงขึ้นเพื่อบรรเลงประกอบละครวงปี่พาทย์นี้มีชื่อเสียงไพเราะนุ่มนวลกว่า ดนตรีไทยสมัยรัตนโกสินทร์ เพราะได้ดัดเครื่องดนตรีที่มีเสียงดังมาก เสียงสูงและเสียงเล็กแหลมออกจนหมด และระนาดเอกก็ตีด้วยไม้นวม รวมทั้งยังนำฆ้องชัยหรือฆ้องหุ่ยมา ๗ลูก เทียบเสียงเรียงลำดับตีห่างๆ คล้ายกับ เบสของฝรั่ง เพิ่มเข้ามา

     สมัยรัชกาลที่ ๖ วงดนตรีได้พัฒนารูปแบบขึ้นอีก คือ ดนตรีไทยสมัยอยุธยา มีการนำเครื่องดนตรีของต่างชาติมาผสมเช่นวงเครื่องสายนำเอาขิมของจีนมาผสม และนำออร์แกนของฝรั่งเข้ามาผสมเป็นรูปแบบของวงเครื่องสายผสมนอกจากนี้ยังนำเอาอังกะลุงซึ่งเป็นเครื่องดนตรีของอินโดนีเซียเข้ามาด้วย

    สมัยรัชกาลที่ ๗ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงตั้งวงเครื่องสาย ส่วนพระองค์ขึ้น โดยพระองค์ทรงซอด้วง ดนตรี สมัย รัตนโกสินทร์ และพระบรมราชินีทรงซออู้ พร้อมทั้งเจ้านายอีกหลายพระองค์ อยู่ในวงนั้น นอกจากนี้ พระองค์ยังทรงพระราชนิพนธ์ เพลงราตรีประดับดาว เถา เพลงเขมรละออองค์ เถา และเพลงคลื่นกะทบฝั่ง ๓ชั้น เครื่องดนตรี ไทย สมัย รัตนโกสินทร์ ต่อมาเมื่อหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ในปี พ.ศ. ๒๔๗๕ การดนตรีไทยได้ค่อย ๆ เสื่อมลง จนมาถึงหลังสงครามโลกครั้งที่ ๒ไปแล้ว จึงได้มีการฟื้นฟูดนตรีไทยขึ้นใหม่ จนมาถึงปัจจุบันนี้ในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ก็ทรงพระปรีชาสามารถทางดนตรีสากล และพระราชนิพนธ์เพลงขึ้นหลายเพลงด้วย แต่พระองค์ยังทรงสนพระทัยการดนตรีไทย โดยพระราชทานทุน ให้พิมพ์เพลงไทยเป็นโน้ตสากลออกจำหน่ายจนเป็นที่นิยมของวงการดนตรีทั่วไป ดนตรีไทยสมัยรัตนโกสินทร์